โรคขาดสารอาหาร ภัยเงียบที่พร้อมกับอาการผอมซูบหรืออาการบวมผิดปกติที่เห็นได้ชัดว่าร่างกายไม่สมดุล จัดเป็นภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) หรือการได้รับสารอาหารในปริมาณที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกาย เช่น อ่อนเพลีย ผิวหนังมีลักษณะผิดปกติ กระดูกหยุดเจริญเติบโต หรือภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมเป็นเวลานานอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว
โรคขาดสารอาหารเกิดขึ้นได้อย่างไร?
โรคขาดสารอาหารมักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอ เช่น
- อาการป่วย เช่น โรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ หรือสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ในผู้สูงวัย
- การผ่าตัดหรือการได้รับยาบางชนิดทำให้อยากอาหารน้อยลง
- อาการเบื่ออาหารจากความเครียด ภาวะซึมเศร้า หรือไบโพลาร์
- ร่างกายได้รับสารอาหารตามปกติแต่กลับไม่สามารถดึงเอาสารอาหารเหล่านั้นไปใช้ได้
- พฤติกรรมการเลือกกินอาหารเฉพาะบางประเภทหรือการจำกัดปริมาณอาหาร
- การขาดแคลนอาหารจากปัญหาความยากจน
ซึ่งการขาดสารอาหารโดยเฉพาะสารอาหารหลักที่เป็นแหล่งพลังงานของร่างกายอย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่นอกจากจะทำให้ร่างกายผอมลงซูบลงแล้วยังทำให้อวัยวะบางอย่างทำงานผิดปกติอีกด้วย
โรคที่เกิดจากการขาดสารอาหาร
- โรคที่เกิดจากการขาดพลังงานและโปรตีน โดยทั่วไปมักพบในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี เมื่อมีภาวะขาดโปรตีนรุนแรงอาจทำให้มีอาการขาบวม ผมร่วง ผิวหนังลอกออกเป็นแผ่น ตับโตและมีอาการเศร้าซึมหรือที่เรียกว่า ภาวะควาชิออร์กอร์ (Kwashiorkor) นอกจากนี้ยังพบการขาดโปรตีนและพลังงานในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี ทำให้ร่างกายซูบผอมเรียกว่ามาราสมัส (Merasmus) ซึ่งในบางรายอาจมีอาการทั้ง 2 แบบเกิดขึ้นพร้อมกัน
- โรคที่เกิดจากการขาดวิตามินและแร่ธาตุ เช่น
- โรคเกี่ยวกับการมองเห็นจากการขาด วิตามิน A
- โรคเหน็บชาหรืออาการชาปลายประสาทจากการขาดวิตามิน B1
- โรคปากนกกระจอกจากการขาดวิตามิน B2
- โรคโลหิตจางที่จากการขาดธาตุเหล็ก
- โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะจากการขาดฟอสฟอรัส
- โรคคอพอกจากการขาดไอโอดีน
อาการเบื้องต้นของโรคขาดสารอาหาร
โดยอาการบางอย่างของโรคขาดสารอาหารอาจไม่รุนแรงทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่าเป็นโรคได้
- น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ
- ผมร่วงผิดปกติ
- เวียนศีรษะ ใจสั่นและอ่อนเพลียง่าย
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- มีอาการชาหรือเสียวบริเวณข้อต่อ
หากมีอาการเหล่านี้มากขึ้นหรือเป็นติดต่อกันเป็นระยะเวลานานและในเด็กที่เริ่มมีอาการบวมหรือผอมแห้งผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ รวมทั้งในผู้ใหญ่ที่ผอมผิดปกติหรือมีอาการเบื่ออาหารรุนแรงควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง
โรคขาดสารอาหารป้องกันได้อย่างไร?
การป้องกันสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป หลีกเลี่ยงการทานอาหารเมนูเดิมซ้ำๆ ควรสลับทานให้ได้สารอาหารที่หลากหลาย โดยเน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และทานอาหารจำพวกแป้งและโปรตีนให้เพียงพอ เช่น ข้าว ขนมปัง เนื้อสัตว์ ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น หากผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีร่างกายไม่สมบูรณ์ควรดูแลรักษาตนเองเป็นพิเศษ ได้แก่
- การปรับเปลี่ยนการทานอาหาร โดนทานอาหารว่างเพิ่มระหว่างมื้ออาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง อาจเข้าพบนักโภชนาการเพื่อวางแผนการทานอาหารให้เหมาะสม
- การทานอาหารเสริม บางคนอาจต้องทานอาหารเสริมร่วมกับวิตามินอื่นๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น ซึ่งระยะเวลาและปริมาณจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการขาดสารอาหาร
- การรับอาหารสายยาง ในผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถเคี้ยวหรือกลืนอาหารได้ แพทย์อาจให้อาหารสายยางผ่านจมูกไปยังกระเพาะอาหารหรือเจาะช่องท้องโดยตรง รวมถึงการให้สารอาหารผ่านทางหลอดเลือดดำ
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันโรคขาดสารอาหารคือการได้รับสารอาหารครบถ้วน เพียงพอ และเหมาะสมตั้งแต่แรกเกิด การเลือกทานอาหารที่หลากหลายไม่จำเจร่วมกับการออกกำลังกายที่เหมาะสม รวมถึงการหมั่นสังเกตตนเองและควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สามารถตรวจหาความผิดปกติของร่างกายได้ทันท่วงทีก่อนที่จะสายเกินแก้ ซึ่งหากทำประกันสุขภาพไว้กับ Rabbit Care ก็สามารถโทรปรึกษาแพทย์แบบไม่ต้องไปโรงพยาบาลได้ 2 ครั้งต่อปี แถมดูแลค่ารักษาพยาบาลได้ครอบคลุมทั้งค่ารักษาและค่าห้อง พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง